หลังจากที่ออกจากเรือนจำ ใบเตย อาร์สยาม ก็ไม่ค่อยจะได้ออกสื่อสักเท่าไร แต่เมื่อช่วงเช้าวันนี้หลังจากที่เจ้าตัวเดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับเพจปลอมที่แอบอ้างเชิญชวนคนลงทุน และเล่นเว็บพนัน ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ชั้น 4 กอง สอท.1 หลังจากที่ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อย ใบเตย ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกับประเด็นที่กลับไปเซ็นสัญญากับค่ายเพลงอีกครั้งว่า
กลับไปทำงานกับอาร์สยามเหมือนเดิม ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนเลย เพราะมันคือโลโก้ของเราไปแล้ว มันคือชื่อและนามสกุล ก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ถ้าใครที่เห็นว่าตั้งแต่หมดสัญญาก็ยังใช้อยู่เหมือนเดิม รวมถึงใช้เพลงด้วย
เป็นการตัดสินใจที่ใหญ่ในชีวิต ตั้งแต่เราได้ออกมามีชีวิตใหม่ เอาจริงๆ แทบไม่คิดจะกลับมาเข้าวงการอีก เพราะเฮียฮ้อเป็นคนที่ทำให้เราคิดได้ และเห็นศักยภาพของเราเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เรามองไม่เห็นศักยภาพของเราเลย
เฮียให้ทางทีมงานโทรมาหาอยากให้เรากลับมา อยากให้เข้มแข็ง ต้องมูฟออน ให้มองไปข้างหน้า เฮียบอกว่าเรายังมีศักยภาพ ประโยคนี้ประโยคเดียวเลยที่ทำให้เราโอเค ตัดสินใจกลับมา และได้โอกาสจาก อาร์เอสมอร์ มาเป็น CEO แบรนด์ดิ้งให้กับตรงนี้ ก็เลยโอเค มีทั้งเพลง และธุรกิจที่รองรับอนาคตของเราและครอบครัว
เตยเชื่อคนรอบตัวรู้ว่าเตยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย คนที่ร่วมงานจะรู้ แต่ว่ามันก็ทำให้สภาพจิตใจแย่ในช่วงนึง รู้สึกเหนื่อยแล้ว อยากเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข ไม่อยากกลับมา แต่เป็นเพราะเฮียค่ะ
พอกลับมากระแสก็ดี เป็นเรื่องที่งงมากๆ แต่ก็ดีใจและขอบคุณผู้ว่าจ้างทุกคน ขอบคุณเอฟซี ไปไหนคนก็เหนียวแน่นและคิดถึง ขอบคุณที่ให้โอกาสทุกอย่าง ตอนนี้กลับมาทำงานร้อยเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือน พ.ย.
ออกมาหลายคนมองว่าแซ่บ แต่จริงๆ เตยพังมากเลย แต่ก็ขอบคุณค่ะ ก็พยายามรักษาชีวิตให้ได้ออกมาเจอทุกคนอย่างสมบูรณ์แบบ ตอนนี้ยังต้องใช้เวลาปรับตัว เหมือนคนบ้ากับคนปกติ บางทีอยู่คนเดียวก็ร้องไห้ ก่อนหน้านี้ร้องไห้ตลอดเวลา 3 เดือนแรกร้องไห้ตลอด ตอนนี้ดีขึ้นมาก การทำงานช่วยได้มากค่ะ พอกลับบ้านตกกลางคืน เวลาอยู่คนเดียวก็รู้สึกว่าชีวิตไม่เหมือนเดิมกะทันหัน เปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง ก็พยายามมาก
ลุกช์ก็ช่วยได้เยอะ แต่ก็เสียน้ำตาเยอะ เราสองคนเจอหนักมากๆ เพราะสูญเสียและเสียศูนย์ ส่วนลูกก็ช่วยฮีลใจแม่ ทุกวันนี้ก็เพื่อเขาทั้งหมด ได้ออกมาทำเพื่อเขา ลูกคือหัวใจที่สุดอยู่แล้ว ตอนที่อยู่ในนั้นบอกตัวเองว่าจะออกมาเจอหน้าเขา และมาส่งเขาไปโรงเรียนให้ได้ในวันแรก
เขาไปโรงเรียนเขาสนุกมาก พอเขาเติบโตไปอีกขั้น เขาเป็นเด็กที่สู้ อยู่กับโลกภายนอกอย่างมีความสุข แค่เขาเอาตัวรอดได้ ไปโรงเรียนไม่ร้องไห้ เราก็หมดห่วง.
คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”