รัฐบาลไทยยืนยันกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน ประณามละเมิดอธิปไตยไทยชัดเจน ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ซัดกลับ “มาลี” บิดเบือนข้อเท็จจริง ย้ำไทยมีสิทธิป้องกันตนเอง
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างรุนแรงที่ใช้อาวุธยิงเข้ามายังพื้นที่ฝั่งไทยก่อน โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน
รัฐบาลยืนยันตามรายงานจากกองทัพบกว่า เมื่อเวลา 16.00 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเหตุทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเข้ามายังฝั่งไทย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอย่างระมัดระวังและอยู่ในกรอบของ “กฎการใช้กำลัง” (Rules of Engagement) โดยเข้าแนวกำบังและยิงแจ้งเตือนเพื่อป้องกันตนเอง เหตุการณ์กินเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนสถานการณ์จะสงบลงโดยไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในฝ่ายไทย
โฆษกรัฐบาล ระบุต่อไปว่า การที่ฝ่ายกัมพูชาใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากลอย่างร้ายแรง ซึ่งประเทศไทยไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองพลเรือนในสถานการณ์ความขัดแย้ง รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการกระทำยั่วยุทุกรูปแบบ เคารพอธิปไตยของไทย และยุติการบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนและประชาชนของตัวเอง การยิงก่อนในครั้งนี้เป็นการก่อกวนและละเมิดข้อตกลงสันติภาพระหว่างสองประเทศโดยตรง
ส่วนกรณีที่ พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงต่อสาธารณะว่า ไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน และมีพลเรือนกัมพูชาได้รับบาดเจ็บนั้น นายสิริพงศ์ ยืนยันว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง “ข้อเท็จจริงคือฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ยิงก่อน ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองอย่างจำกัดและอยู่ในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ”






