“ทวี” ลุยรับฟังความเห็นนราธิวาส ชี้ปัญหา “ป่าทิพย์” 3 แสนไร่ ทำชาวบ้านถูกดำเนินคดี เร่ง กมธ.นิรโทษกรรมที่ดินจ่อเข้าสภาฯ 12 ธ.ค.
วันที่ 5 ธันวาคม 2568 พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผลกระทบจากนโยบายที่ดินฯ ได้ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเพื่อรับฟังความเห็นภาคประชาชน โดยเน้นย้ำถึงปัญหาผลกระทบจากนโยบายรัฐที่ทำให้ประชาชนถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่า ทั้งที่เป็นที่ดินทำกินดั้งเดิม
พ.ต.อ. ทวี เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า ในพื้นที่ที่รัฐประกาศเป็นเขตป่าไม้ประมาณ 9 แสนไร่ ใน จ.นราธิวาส เมื่อตรวจสอบด้วยภาพถ่ายดาวเทียมกลับพบว่ามีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์จริงเพียง 6 แสนไร่เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 3 แสนไร่ไม่มีสภาพเป็นป่าเป็นที่ดินโล่งเตียน หรือเป็นที่ทำกินของชาวบ้าน แต่ในทางกฎหมายกลับยังคงสถานะเป็นป่า หรือที่เราเรียกว่า “ป่าทิพย์”” ปัญหานี้ทำให้ประชาชนที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ต้องกลายเป็นผู้บุกรุกโดยไม่ตั้งใจ โดยมีต้นตอมาจาก พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ที่นิยามคำว่า “ป่า” กว้างเกินไป คือ “ที่ดินที่ยังไม่มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดิน”
พ.ต.อ. ทวี ชี้ว่า แม้จะมีมติคณะรัฐมนตรี (เช่น มติ 30 มิ.ย. 41) ออกมาผ่อนผัน แต่ในทางปฏิบัติเมื่อคดีขึ้นสู่ศาล ผู้พิพากษาต้องตัดสินตามพระราชบัญญัติ ทำให้ชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีมีโอกาสแพ้คดีและติดคุกเกือบ 100% จึงเสนอแนะว่าการแก้ปัญหาต้องใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมพิสูจน์สิทธิ์เพื่อกันเขตพื้นที่ที่ไม่เป็นป่าจริงออกไป หรือเร่งออกเอกสารสิทธิ์ให้ถูกต้องเพื่อยุติปัญหา “ป่าทิพย์”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ภายใต้การนำของ พ.ต.อ. ทวี กำลังเร่งสรุปการประชุมรับฟังความเห็น เพื่อผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฯ ฉบับนี้ต่อสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2 และวาระ 3 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ที่จะเปิดสมัยประชุมสภาฯ (สามัญประจำปีครั้งที่ 2) โดยคาดหวังว่ากฎหมายนี้จะสามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐได้อย่างสูงสุด.
